top of page
  • Writer's pictureJanejira R.

จะรู้ได้อย่างไรว่าแผนธุรกิจที่คุณวางไว้ จะสร้างกำไร

Updated: May 14, 2021


จริงที่ยอดขายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้SMEมีชีวิตอยู่ได้ แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้SMEเติบโต วันนี้เราจึงอยากชวนSMEมาทำแผนธุรกิจกัน การทำแผนธุรกิจ(Business Plan)นั้นไม่เหมือนกับการทำงบประมาณ(Budget)ที่โฟกัสเเต่ค่าใช้จ่ายอย่างเดียว แต่การทำแผนธุรกิจที่ดีจะมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการทำกำไร, การสร้างเงินสด รวมไปถึงสินทรัพย์ของ SME โดยรวม ดังนั้นการวางแผนธุรกิจจะต้องมองรอบด้านไปถึงค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆที่จำเป็น เพื่อที่ก่อให้เกิดกำไรสูงสุดของธุรกิจ


ข้อดีของการวางแผนธุรกิจคือ

  • ทดสอบว่า กลยุทธ์ (ฺBusiness Strategy) ที่วางไว้จะทำให้SME เติบโต เช่น การออกสินค้าใหม่ๆ, ขยายสาขา, เพิ่มช่องทางขายOnline นั้นจะทำให้ยอดขายโตขึ้นได้อย่างไร

  • SME มีทรัพยาการเพียงพอในการทำให้กลยุทธ์นี้เป็นจริง ถ้าหากมีไม่เพียงพอคุณมีกำไรสะสม หรือ Markupเพียงพอที่จะลงทุนเพิ่มเติม เช่น การซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าร้านใหม่, จ้างผู้จัดการขายออนไลน์, ซื้อวัตถุดิบใหม่

  • ประเมินความสามารถในการทำกำไร เงินสด และ สภาพคล่อง ของกลยุทธ์ ว่าหลังจากที่เราลงทุนไปในกลยุทธ์นี้แล้ว เราจะได้กำไร และ เงินสดกลับมาเท่าไหร่ สภาพคล่องเราจะเป็นอย่างไรหากเราลงทุนในกลยุทธ์นี้ (อ่านเพิ่มเติมที่นี่เลย)

  • สื่อสารกลยุทธ์ในกับคนในบริษัทได้ดียิ่งขึ้นด้วยว่าใครต้องทำอะไรบ้าง ทำให้ทุกคนเห็นเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น และส่งผลให้เจ้าของSMEประเมินผลการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน


ที่นี้เราจะวางแผนยังไงหละ ให้มั่นใจว่าได้กำไรจริง…. วันนี้Muchroom มี 4ขั้นตอนในการวางแผนธุรกิจมาแนะนำค่ะ


1. ประมาณการยอดขาย

หลายๆอาจจมีคำถามว่า จะประเมินยอดขายออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างไร คุณอาจเริ่มจากยอดขายย้อนหลังใน1ปีที่ผ่านมา ว่าคุณทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง เผื่อทำให้เกิดยอดขายเหล่านั้นขึ้น แล้วคุณจะทำอะไรในปีนี้เพื่อให้ขายได้เท่าเดิม หรือ มากกว่า เช่นการออกสินค้าใหม่ๆ ขยายช่องทางการขายไปออนไลน์ และอื่นๆ หรือ การที่มีปัจจัยภายนอกที่ช่วยส่งเสริมการขายของคุณ อย่างเช่น อีเวนต์ต่างๆ กิจกรรมสนับสนุนการขายจากห้างร้าน อย่างเช่น (9.9 Sale ของ Lazada และ Shoppee) หากคุณยังคิดไม่ออก แหล่งข้อมูลที่ดีที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดมากขึ้น มีทั้งfeedback จากลูกค้า, ดูว่าคู่เเข่งมีแผนจะทำอะไรบ้าง หรือ ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจต่างๆ



2. ประมาณการค่าใช้จ่าย

เมื่อได้ยอดขายมาแล้ว มาลองคิดกันว่าค่าใช้จ่ายๆต่างๆที่จะตามมามีอะไรบ้าง โดยค่าใช้จ่ายสามารถเเบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน

  1. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นผันแปรกับยอดขาย Variable Cost ซึ่งโดยมากมักเป็นต้นทุนสินค้า หรือ ค่าGPที่โดนเรียกเก็ยจากการฝากขาย หรือ การขายออนไลน์

  2. ต้นทุนคงที่ หรือ Fixed Cost ที่ไม่ว่าจะมียอดขายหรือไม่ก็ต้องจ่าย เช่น ค่าเช่าที่อาจจะมีเพิ่มขึ้นหากเปิดสาขาใหม่ หรือ ค่าจ้างพนักงานขาย

  3. ค่าใช้จ่ายที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าของกิจการ อาจจะปรับได้ตามสถานการณ์เช่น งบการตลาด ที่อาจจะเพิ่มหรือลดได้ในระหว่างปี

  4. ค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนกิจกรรมหลักของSME เช่น ค่าระบบหลังบ้านต่างๆที่จะช่วยให้หน้าบ้านขายเเละทำงานได้อย่างราบรื่นมากขึ้น


3. คิดกำไรขาดทุนที่คาดว่าจะได้จากกลยุทธ์นี้

โดยกำไรขาดทุนนั้นคิดโดยเอายอดขายมาหักกับค่าใช้จ่าย ดังนั้นการขายได้มากไม่ได้หมายความว่า คุณจะมีกำไรเสมอไปหากไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดี การแบ่งแยกรายได้และค่าใช้จ่ายออกเป็นประเภทต่างๆ จะช่วยให้คุณมองเห็นจุดอ่อนในการดำเนินงานของคุณได้ชัดเจนขึ้น (ตรวจสุขภาพธุรกิจ ด้วย 3 งบการเงิน)



4. ประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆที่จำเป็น

ที่นี้ คุณอาจจะได้เเนวคิดเเล้วว่า คุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องลงทุนเพื่อให้กลยุทธ์นี้เห็นผล เช่น สินค้าใหม่ เปิดร้านใหม่ จ้างพนักงานเพิ่ม หรือ การติดตั้งระบบหลังบ้าน เราแนะนำให้คุณลองคิด ROI ซึ่งก็คืออัตราส่วนของกำไรสุทธิกับค่าใช้จ่ายของคุณ


สมมติว่าคุณมีผลิตภัณฑ์ที่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ 3,000 บาท และขายในราคา 6,000 บาท คุณขายผลิตภัณฑ์นี้ได้ 6 ชิ้นจากการโฆษณาบน Google Ads ดังนั้น ค่าใช้จ่ายรวมของคุณเท่ากับ 18,000 บาท และยอดขายรวมเท่ากับ 36,000 บาท สมมติว่าค่าใช้จ่าย Google Ads เท่ากับ 6,000 บาท รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด 24,000 บาท


ROI จะเท่ากับ


(36,000 - 24,000) / 24,000


= 12,000 / 24,000


= 50%


ในตัวอย่างนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 50% โดยทุกๆ 30 บาทที่คุณใช้ไปจะให้ผลตอบแทน 45 บาท


ขอบคุณตัวอย่างจาก Google Ads


เมื่อคุณรู้เเล้วว่า ROI เป็นบวก เราเเนะนำให้คุณไปดู Markup หรือ เงินเก็บสะสมของคุณจากการขาย ว่าเพียงพอต่อการลงทุนหรือไม่ หากไม่พอคุณอาจจะต้องพิจารณาว่าจะกู้ธนาคาร (หนี้สิน) หรือ ขอเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม



 

การวางแผนธุรกิจเเบบนี้ทุกๆปี จะช่วยให้ SME เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากมีเงินพอใช้หมุนเวียนในธุรกิจเเละมีทรัพย์สินมากพอที่จะขยายกิจการหรือลงทุนใหม่ๆเมื่อต้องการ สนใจ workshop การทำแผนธุรกิจติดต่อเราได้ที่

- ☎️ Tel: 082-221-3441

- 📧 email: muchroom.consultancy@gmail.com


Kommentare


bottom of page